สมุนไพรลูกประคบ#ลูกประคบ#ตำรับโปราณ200กรัม
สมุนไพรหลายอย่างมาห่อรวมกัน ส่วนใหญ่เป็นสมุนไพรที่มีน้ำมันหอมระเหย โดยนำมานึ่งให้ร้อนประคบบริเวณที่ปวดหรือเคล็ดขัดยอกซึ่งน้ำมันหอมระเหยเมื่อถูกความร้อน จะระเหยออกมา ความร้อนจากลูกประคบจะช่วย
ลูกประคบตำรับลดเซลลูไลต์ เป็นการนำสมุนไพรไทยที่มีรสเผ็ดร้อนและมีฤทธิ์ต้านอักเสบ อาทิ ขิง พริกไทย ดีปลี ชา และกาแฟ ที่มีสรรพคุณช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ยับยั้งการผลิตไขมัน หรือกระตุ้นการสลายไขมันมาเป็นส่วน ประกอบหลัก
ประโยชน์การประคบด้วยลูกประคบสมุนไพร
*บรรเทาอาการปวดเมื่อย
*ลดอาการบวม อักเสบของกล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อหลัง 24-48 ชั่วโมง
* ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ
*ช่วยให้เนื้อเยื่อ พังผืด ยึดตัวออก
*ลดการติดขัดของข้อต่อ
*ลดอาการปวด
*ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
- นำลูกประคบ ใส่หม้อต้ม
- นำเข้า Microwave 2-3 นาที ความร้อน 700-800 องศา
- นำลูกคบมานวดตามร่างกาย
หากท่านมีหม้อนึ่งสามารถนำไปนึ่งโดยที่ไม่ต้องใช้ไมโครเวฟได้เช่นกัน
ตะไคร้ มะกรูด ใบมะขาม ใบเตย ใบยูคาลิปตัส ใบหนาด และหัวข่า ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้ก็มีสรรพคุณที่แตกต่างกันออกไป
ข้อควรระวังในการใช้ลูกประคบสมุนไพร
1. ห้ามใช้ลูกประคบที่ร้อนเกินไป โดยเฉพาะกับบริเวณผิวหนังอ่อน ๆ หรือบริเวณที่เคยเป็นแผลมาก่อน ถ้าต้องการใช้ควรมีผ้าขนหนู รองก่อนหรือรอจนกว่าลูกประคบจะคลายร้อนลงจากเดิม
2. ควรระวังเป็นพิเศษในผู้ป่วยเบาหวาน อัมพาต เด็ก และผู้สูงอายุ เนื่องจากกลุ่มบุคคลดังกล่าว ความรู้สึกตอบสนองต่อความร้อน ช้า อาจจะทำให้ผิวหนังไหม้ พองได้ง่าย ถ้าต้องการใช้ควรจะ ใช้ลูกประคบที่อุ่น ๆ
3. ไม่ควรใช้ลูกประคบสมุนไพรในกรณีที่มีแผล การอักเสบ (ปวด บวม แดง ร้อน) ในช่วง 2 ชั่วโมง
4. หลังจากประคบสมุนไพรแล้ว ไม่ควรอาบน้ำทันทีเพราะจะไปชะล้างตัวยาออกจากผิวหนัง และอุณภูมิของร่างกายปรับเปลี่ยนไม่ทันอาจจะทำให้เป็นไข้ได้
การเก็บรักษาลูกประคบ
1. ลูกประคบสมุนไพรที่ทำในแต่ละครั้ง สามารถเก็บไว้ใช้ซ้ำได้ 3-5 วัน
2. ควรเก็บลูกประคบไว้ในตู้เย็น จะทำให้เก็บได้นานขึ้น (ควรเช็คลูกประคบด้วย ถ้ามีกลิ่นบูดหรือ เหม็นเปรี้ยวไม่ควรเก็บไว้)
3. ถ้าลูกประคบแห้ง ก่อนใช้ควรพรมด้วยน้ำหรือเหล้าขาว
4. ถ้าลูกประคบที่ใช้ไม่มีสีเหลืองหรือสีเหลืองอ่อนลงแสดงว่ายาที่ใช้จืดแล้ว (คุณภาพน้อยลง) จะ
ใช้ไม่ได้ผลควรเปลี่ยนลูกประคบใหม่